พระราชกฤษฎีกา การจัดวางระเบียบราชการกรมตำรวจ ในกระทรวงมหาดไทย ให้ไว้เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2498 ให้แผนกสวัสดิการและแผนกดุริยางค์ เป็นแผนกหนึ่งในสังกัดกองบัญชาการจเรตำรวจ
พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมตำรวจ กระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2503 ให้ไว้เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2503 ได้ปรับปรุงโครงสร้างและหน้าที่ความรับผิดชอบของกองสวัสดิการ โดยยกฐานะขึ้นเป็น "กอง" มีสายบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อกรมตำรวจ แบ่งส่วนราชการออกเป็น 4 แผนก คือ
1. แผนกสงเคราะห์
2. แผนกกีฬา
3. แผนกดุริยางค์
4. แผนกโรงพิมพ์
โดยจะถือว่า วันที่ 13 กันยายน ของทุกปี เป็นวันสถาปนากองสวัสดิการ
ในปี พ.ศ.2508 ได้มีพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการ กรมตำรวจ กระทรวงมหาดไทย ได้ปรับปรุงโครงสร้างและแบ่งส่วนราชการของกรมตำรวจขึ้นใหม่ ในส่วนของกองสวัสดิการคงยังแบ่งส่วนราชการออกเป็น 4 แผนกตามเดิม
ในปี พ.ศ.2518 ได้มีพระราชบัญญัติกำหนดคุณสมบัติมาตรฐานของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2518 ขึ้น ทำให้แผนกโรงพิมพ์กองสวัสดิการ ได้แยกไปตั้งเป็นสำนักงานโรงพิมพ์ตำรวจ ไม่ขึ้นกับกองสวัสดิการดังเดิม แต่เป็นรัฐวิสาหกิจขึ้นตรงต่อกรมตำรวจ
ในปี พ.ศ.2528 ได้มีมติ ก.ตร. ครั้งที่ 17/2528 เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2528 ให้เปลี่ยนแปลงกำหนดตำแหน่งในกองสวัสดิการ โดยกำหนดงานเพิ่มเติมให้กองสวัสดิการรับผิดชอบดำเนินการอีก 5 งาน คือ
1. งานอำนวยการ
2. งานสวัสดิการบ้านพัก
3. งานฌาปนสถานและพิธีการ
4. งานสถานพักฟื้น
5. งานบัญชี
ในปี พ.ศ.2535 ได้มีพระราชกฤษฎีกา แบ่งส่วนราชการกรมตำรวจ กระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ 21) พ.ศ.2535 ให้ไว้เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2535 กรมตำรวจได้มีการปรับปรุงระบบการบริหารงานบุคคลของกรมตำรวจใหม่ โดยรวบรวมหน่วยงานที่รับผิดชอบการบริหารงานบุคคลทั้งหมด ซึ่งได้แก่ กองสวัสดิการ กองกำลังพล กองตำแหน่งและอัตรา กองวินัย และกองการสอบ เข้าด้วยกัน ตั้งเป็น "สำนักงานกำลังพล" เป็นหน่วยงานระดับกองบัญชาการ ในส่วนของกองสวัสดิการ ได้แบ่งส่วนราชการออกเป็น 4 กองกำกับการ ได้แก่
1. กองกำกับการอำนวยการ
2. กองกำกับการ 1
3. กองกำกับการ 2
4. กองกำกับการ 3
ในปี พ.ศ.2538 ได้มีมติ อ.ก.ตร. ตำแหน่ง ครั้งที่ 6/2535 เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2535 อนุมัติเปลี่ยนแปลงการกำหนดตำแหน่งในสำนักงานกำลังพล โดยอนุมัติและเปลี่ยนแปลงตำแหน่งข้าราชการตำรวจ เพื่อปฏิบัติงานในศูนย์กรรมวิธีข้อมูลบุคคลของกองบังคับการ ในสังกัดสำนักงานกำลังพล ซึ่งรวมกองสวัสดิการด้วย ศูนย์กรรมวิธีข้อมูลบุคคล กองสวัสดิการ มีฐานะเทียบเท่าแผนก โดยมีสารวัตรเป็นหัวหน้างานขึ้นต่อกองสวัสดิการโดยตรง ในปี พ.ศ.2539 ได้มีพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมตำรวจ กระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2539 ให้ไว้เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2539 ได้ปรับปรุงโครงสร้างบางหน่วยงานในกรมตำรวจขึ้นใหม่ แต่กองสวัสดิการยังคงแบ่งส่วนราชการออกเป็น 4 กองกำกับการ และ 1 งานเช่นเดิม ได้แก่
1. กองกำกับการอำนวยการ
2. กองกำกับการ 1
3. กองกำกับการ 2
4. กองกำกับการ 3
5. ศูนย์กรรมวิธีข้อมูลบุคคล
ก.ตร. ได้มีการประชุมครั้งที่ 8/2540 เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2540 และได้มีมติให้กรมตำรวจตั้ง "ฝ่ายส่งเสริมและทดสอบสมรรถภาพร่างกายกรมตำรวจ" เทียบเท่ากองกำกับการขึ้น โดยอยู่ในสังกัดกองสวัสดิการ สำนักงานกำลังพล ในการประชุม อ.ก.ตร. ครั้งที่ 7/2540 เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2540 ได้มีมติให้ตั้งงานสโมสรตำรวจ เทียบเท่าแผนกขึ้น โดยอยู่ในสังกัดกองกำกับการ 3 กองสวัสดิการ
ในปี พ.ศ.2541 ได้มีพระราชกฤษฎีกาโอนกรมตำรวจ กระทรวงมหาดไมย ไปจัดตั้งเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2541 นับแต่นั้นมากรมตำรวจจึงได้เปลี่ยนมาเป็น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในปัจจุบัน
ในปี พ.ศ.2548 ได้มีพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2548 ให้ไว้เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2548 ได้ปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นใหม่ โดยแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติออกเป็น สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการ
ต่อมาในปี พ.ศ.2548 ได้มีกฏกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการ หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2548 โดยในส่วนของสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แบ่งส่วนราชการเป็นดังนี้
1. สำนักงานเลขานุการตำรวจแห่งชาติ
2. กองการเงิน
3. กองการต่างประเทศ
4. กองกำลังพล
5. กองงบประมาณ
6. กองบินตำรวจ
7. กองพัฒนาการจราจรและบริการประชาชน
8. กองพัฒนาการป้องกันและควบคุมอาชญากรรม
9. กองพลาธิการและสรรพาวุธ
10. กองวิจัยและพัฒนา
11. กองวินัย
12. กองสารนิเทศ
13. กองสวัสดิการ
14. ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
15. สำนักงานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ
ซึ่งต่อมาได้มีการปรับโครงสร้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ.2552 กำหนดให้มีสำนักงานกำลังพลขึ้นอีกครั้ง กองสวัสดิการจึงได้เป็นหน่วยงานระดับกองบังคับการในสังกัดสำนักงานกำลังพล โดยปรับโครงสร้างภายในออกเป็น 8 ฝ่าย 1 กลุ่มงาน